อาจารย์อภิมุขมีประสบการณ์ด้านดนตรีมานาน เริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่ยังเด็ก และยังได้เป็นคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์อีกด้วย ขณะศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ยังได้เป็นสมาชิกของวงดุริยางค์ของโรงเรียน ในตำแหน่ง percussion และยังเคยไปแข่งขันดรัมไลน์ชิงถ้วยพระราชทานฯ และได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 2 ปีซ้อน อีกทั้งยังได้ไปแข่งขันในรายการ Winter Guard International ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้อันดับที่ 12 ของโลก (พ.ศ.2557 และ 2560) และเป็นสมาชิกของวง Bangkok Society Drumline และวง Crystallize Percussion Ensemble อีกด้วย
อ. อภิมุขจบการศึกษาจากสาขาวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสานสนเทศ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และยังเป็นสมาชิกของคณะนักร้องประสานเสียงของมหาวิทยาลัยหรือ KMUTT Chorus ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนวิชาขับร้องให้กับสถาบันดนตรีต่างๆ และในปี 2560 เขาได้รับโอกาสในเข้าร่วมเป็นสมาชิกของวง The Bangkok Voices ในกลุ่มเสียง Tenor โดย เมื่อต้นเดือน เม.ย. 2566 ได้ไปร่วมแข่งขันขับร้องประสานเสียง 7Th Vietnam International Choir Competition ณ เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามด้วย
อาจารย์จุฬพัฒน์เริ่มเล่นเรียนเปียโนครั้งแรกเมื่ออายุ 5 ปี และต่อมาได้เริ่มเรียนกีต้าร์คลาสสิคเมื่ออายุ 10 ปี เขาผ่านการสอบวัดระดับเกรด 6 ด้านการเล่นเปียโนคลาสสิคจากสถาบัน Trinity College London และผ่านการสอบวัดระดับทฤษฎีดนตรีในระดับเกรด 5 จากสถาบัน Associated Board of The Royal Schools of Music, London (ABRSM)
สำหรับเส้นทางการขับร้องประสานเสียงนั้น เขาเริ่มต้นจากการเข้าเป็นสมาชิกในวงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียนในขณะที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรมขับร้องประสานเสียง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL Chorus) โดยมีอาจารย์ขจรศักดิ์ กิตติเมธาวีนันท์ เป็นวาทยกรในขณะนั้น ในระหว่างนั้นเขาได้มีโอกาสไปแข่งขันในงานแข่งขันต่างๆ อาทิ เช่น Singapore International Choral Festival นอกจากนี้ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย (Thai Youth Choir) ซึ่งควบคุมวงโดยอาจารย์รุ่งธรรม เกียรติศรีชาติ และได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกวง The Bangkok Voices ในปี 2565 ในเสียงเทเนอร์ และได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันขับร้องประสานเสียง The 7th Vietnam International Choir Competition ณ เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม
ปัจจุบันจุฬพัฒน์ได้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และประกอบอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้าน Cybersecurity ให้กับหน่วยงานภาคการเงินต่างๆ ในประเทศ
อาจารย์ฮักกัยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต สาขาดนตรีแจ๊ส เครื่องเอกเปียโน จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 (เกรดเฉลี่ย 3.92)
ฮักกัยเริ่มต้นเส้นทางสายดนตรีตั้งแต่อายุ 16 ปี จากการเป็นนักเปียโนประจำคริสตจักรน้ำพระทัยบึงกาฬ ซึ่งเป็นคริสตจักรใหญ่ประจำจังหวัดบ้านเกิดของเขา โดยได้รับการปลูกฝังและอบรมอย่างเข้มข้นทั้งด้านศาสนาและดนตรีจากบาทหลวง จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการขับร้องประจำคริสตจักร
เมื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ฮักกัยตัดสินใจศึกษาด้านดนตรีแจ๊สอย่างจริงจัง โดยเลือกสาขาวิชา Jazz Piano Performance และในระหว่างการศึกษา ได้เข้าร่วมคณะนักร้องประสานเสียง MU Choir (พ.ศ. 2565–2568) ในตำแหน่ง Tenor 1 ภายใต้การควบคุมวงของ ดร. ฤทธิ์ ทรัพย์สมบูรณ์ ฮักกัยได้เข้าร่วมการแสดงและแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ออสเตรีย อิตาลี เยอรมนี และโปแลนด์ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็น Soloist ประจำวงตลอดช่วงการแข่งขัน พร้อมทั้งคว้ารางวัลสำคัญหลายรายการ อาทิ :
⭐ Leonardo Da Vinci International Choral Festival, Chamber Choirs Category — 1st Prize Winner: Gold Medal (2566)
⭐ HARMONIE Festival, Mixed Chamber Choirs — 1st Prize Winner: Gold Medal (2567)
⭐ 1st Thailand International Choral Festival, Mixed Youth Choir — 1st Prize Winner: Gold Medal (2567)
⭐ 1st Thailand International Choral Festival, Gospel and Spiritual — 1st Prize Winner: Gold Medal (2567)
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 ฮักกัยเริ่มต้นศึกษาและฝึกฝนด้านการขับร้องคลาสสิกอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาทักษะการร้องเพลงของตนเองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2568 เขาตัดสินใจยุติการเป็นสมาชิกของ MU Choir เพื่อให้ตัวเองเติบโตขึ้นอีกขั้นในสายทางการขับร้อง โดยหลังจากนั้นได้เข้าร่วมเป็นนักร้องรับเชิญให้กับหลายวงประสานเสียงในกรุงเทพฯ ได้แก่ :
🎤 วงเสียงไทยคอรัส (ควบคุมวงโดย อาจารย์ไกวัล กุลวัฒโนทัย ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี พ.ศ. 2563)
🎤 วง Calliope Chamber Choir (ควบคุมวงโดย อาจารย์สมเถา สุจริตกุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง พ.ศ. 2565)
และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ฮักกัยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกวง The Bangkok Voices อย่างเป็นทางการในตำแหน่ง Tenor 1 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่และมุ่งหน้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ
ปัจจุบัน ฮักกัยเป็นนักร้องและนักเปียโนแจ๊สอิสระที่มีผลงานแสดงทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นนักเปียโนประจำร้านอาหาร Music Square ซึ่งอยู่ในเครือของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล